หนังอินเดียสุดโหด รีวิวหนังแอคชันฟอร์มยักษ์สาดกระสุน ในเรื่อง “ปาทาน”

Posted 2023/02/14 109 0

หนังอินเดียสุดโหด กับภาพยนตร์ทุ่มทุนสร้าง ทั้งเทคนิคการต่อสู้และฉากแอคชันสุดมันส์ ที่กลายเป็นหนังสุดฮิตในอินเดียขณะนี้

หนังอินเดียสุดโหด จากการเปิดตัวในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น หลากหลายสำนักสื่อบันเทิง โดยเฉพาะสื่อในต่างประเทศก็ได้ให้ความสนใจ ในการรายงานข่าวภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์จากอินเดีย ในเรื่อง “ปาทาน” และการกลับมาในรอบสี่ปีของพระเอกดัง ชารุค ข่าน ทำตัวหนังก็รายได้ถล่มทลาย ทุบสถิติทั้งในประเทศและทั่วโลก โดยเป็นหนังแนวแอคชันสุดมันส์ ได้รับแรงบันดาลใจมาจากภายนตร์ในเฟรนไชส์ มิชชั่น:อิมพอสซิเบิ้ล ทั้งในเรื่องของการต่อสู้ตัวต่อตัว และการสาดกระสุนปืนกลหนัก จากบนเฮลิคอปเตอร์

และยังมีฉากแอคชันโหดๆ อีกมากมาย ที่เราจะได้เห็นกันในหนังเรื่องนี้ หากว่าใครได้รับชมตัวอย่างหนังไปแล้ว ก็มีฉากแอคชันที่ทุ่มทุนสร้างได้แก่ การต่อสู้กันบนรถบรรทุก, การขับรถมอเตอร์ไซค์ไล่ล่ากัน บนทะเลสาบที่กลายเป็นน้ำแข็ง และการไล่ล่ากันกลางอากาศ ด้วยเครื่องเจ็ทไอพ่นแบบติดหลัง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของทุนสร้าง ที่ทุ่มลงไปให้กับภาพยนตร์เรื่องนี้ ผลงานของผู้กำกับ สิทธัตถะ อานันท์ ที่บอกเล่าเรื่องราวของปาทาน อดีตสายลับอินเดียผู้กรำศึกมาแล้วหลายสมรภูมิ และเกือบเอาชีวิตไปทิ้งก็หลายครั้ง

แต่ในสมรภูมิครั้งล่าสุดของเขานั้น การปฎิบัติงานในครั้งนี้ก็ดันไปสร้างความขัดแย้ง และมีเรื่องหมางใจกับทางรัสเซีย เขาจึงต้องรับผิดชอบโดยการหันหลังให้วงการ แต่แล้วเขาถูกเรียกตัวกลับมา เพื่อจัดการกับผู้ก่อการร้ายบิ๊กบึ้มที่ชื่อจิม ที่มีแผนใช้เชื้อไวรัสไข้ทรพิษ ตัดแต่งพันธุกรรมมาทำลายอินเดีย ซึ่งตัวร้ายนี้ก็ไม่ใช่ใครอื่น เป็นอดีตสายลับอินเดีย ผู้ทุ่มเททุกอย่างเพื่อแผ่นดินแม่ แต่เคยทำงานพลาดถูกผู้ก่อการร้ายจับตัวไป พร้อมภรรยาและลูกในท้อง รัฐบาลนิวเดลีปฏิเสธเจรจาเพื่อช่วยชีวิตจิม และครอบครัว

แน่นอนว่าเมื่อเจอแบบนี้ จากความรักที่มีต่อองค์กรก็กลายเป็นความแค้น เนื่องจากครอบครัวเขาไร้การเหลียวแลจากการช่วยเหลือ จิมผู้รักชาติต้องกลายมาเป็นคนขายชาติ ร่วมมือกับศัตรูจ้องทำลายล้างแผ่นดินเกิด งานนี้มีปาทานผู้เดียวเท่านั้น ที่จะกอบกู้สถานการณ์ได้ โดยหนังมีความยาว 140 นาที บู๊สนั่นตั้งแต่ต้นจนจบ ระหว่างทางมีการหักมุมไปมาให้ลุ้นตลอด พระเอกคนเดียวลุยผู้ร้ายเป็นสิบรอดมาได้ยังไง ไม่มีข้อครหาเรื่องความขี้โม้ เพราะหนังแอคชั่นชาติไหนๆ ก็เป็นแบบนี้ทั้งนั้น

แต่ว่านานๆ ทีจะมีหนังของอินเดียฟอร์มยักษ์แบบนี้ มาให้เราได้ดูกัน ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นหนังแอคชั่นเทคนิคแบบจัดเต็ม ไม่แตกต่างจากหนังของทางฝั่งฮอลลีวูดเลย ดูแล้วชวนให้คิดถึงระบบข่าวกรอง และความก้าวหน้าทางการทหารของอินเดีย อย่างฉากปาทานและจิม สวมเสื้อเกราะมีปีก แล้วเหาะเหินเดินอากาศไปสู้กันกลางเวหา ซึ่งหนังเรื่องนี้เราจะได้เห็น เทคโนโลยีอินเดียของจริงแบบไม่อิงนิยาย จัดเต็มด้วยเทคนิคพิเศษ ที่มีทุนสร้างสูงถึง 2,500 ล้านรูปี

ถ้าหากจะเทียบกับหนังของทางฝั่งฮอลลีวูด ก็เรียกได้ว่าในฉากแอคชันนั้นก็ไม่ต้องพูดถึง อาจจะมีในส่วนของซีจีที่ยังไม่ค่อยเนียนบ้าง แต่ก็อยู่ในขั้นที่ให้อภัยได้ ที่สังเกตได้อีกอย่าง ถ้าหนังฮอลลีวูดออกแนวพระเอกกอบกู้โลก เรื่องนี้ก็ไปในแนวเดียวกัน แต่สเกลเล็กลงมา เช่น ประธานาธิบดีสหรัฐมักตกเป็นเป้าโจมตี ของผู้ก่อการร้าย ก็เปลี่ยนมาเป็นประธานาธิบดีอินเดีย พระเอกฮอลลีวูดต้องไปพิทักษ์โลก ก็เปลี่ยนมาเป็นปาทานช่วยพิทักษ์อินเดียแทน

เรื่องรายได้จากหนังเรื่องนี้ไม่ต้องพูดถึง เอาแค่ในประเทศก็สามารถทำรายได้ในวันเปิดตัว ที่ทุบสถิติในอินเดีย

เพราะด้วยความมันส์ในแนวแอคชัน ในระดับระเบิดภูเขาเผาตึก พร้อมด้วยพระเอกแนวหน้าที่หวนคืนจอ ทำให้ในห้าวันแรกทำรายได้ 30 ล้านดอลลาร์ รายได้ทั่วโลกแค่สามวันเกิน 13.7 ล้านดอลลาร์ (1 พันล้านรูปี)  เรียกได้ว่าเป็นภาพยนตร์แห่งความหวัง คนอินเดียชอบดูภาพยนตร์ในโรงมาก แต่ช่วงโควิด-19 ระบาด ทุกอย่างก็ชะงัก โรงภาพยนตร์เพิ่งกลับมาเปิดได้อีกครั้ง เมื่อราวหนึ่งปีก่อน แต่ที่ผ่านมาก็ยังมีปัญหาเรื่องรายได้ แต่ในหนังเรื่องนี้และการกลับมาของพระเอกชารุค คือสัญญาณบ่งบอกว่า บอลลีวูดกลับมาแล้ว

ว่าด้วยเรื่องของนักแสดงนำ กับพระเอกแถวหน้าคนนี้ ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะมีอายุปาเข้าไป 57 ปีแล้ว เพราะทั้งรูปร่างหน้าตามันดูโกงอายุจริงๆ อีกทั้งเรี่ยวแรงทั้งเต้นทั้งบู๊แรงดีไม่มีตก อยู่คู่วงการมาหลายสิบปีเรียกได้ว่า วงการบันเทิงอินเดียใช้ทรัพยากรมนุษย์ ได้คุ้มค่าจริงๆ ไม่เพียงเท่านั้นชารุคยังเป็นคนที่หลอมรวมชาวอินเดีย ผู้เต็มไปด้วยความหลากหลายได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นชาติพันธุ์ ภาษา หรือศาสนาใด จึงไม่ต้องแปลกใจที่เขาะกลายเป็น งานเฉลิมฉลองแห่งชาติ ​ฉากเต้นในหนังคนดูเขาก็มีอารณ์ร่วม แดนซ์กันกระจายราวกับงานคอนเสิร์ต

และเหตุผลที่อยากให้ทุกท่าน ลองไปชมภาพยนตร์เรื่องนี้ นอกเหนือจากการทุ่มทุนสร้างมหาศาล และจากกระแสข่าวที่ดังมากมาย ก็คือชื่อเรื่อง โดยผู้เขียนมีเพื่อนสนิทต่างชาติ เป็นชาวปาทาน กลุ่มชาติพันธุ์ที่อาศัยอยู่ในภูมิภาค ระหว่างเทือกเขาฮินดูกูชทางตะวันออกเฉียงเหนือ ของอัฟกานิสถาน และทางตอนเหนือของแม่น้ำสินธุในปากีสถาน  จึงอยากรู้ว่าเนื้อเรื่องเกี่ยวข้อง กับชาวปาทานหรือไม่ ซึ่งคำตอบมีอยู่ในหนังต้องไปดูกันเอาเอง

และสำหรับคนที่ตัดสินใจ อยากจะลองไปหาดูหนังเรื่องนี้ ก็มีเรื่องที่อยากจะฝากและป้ายยา โดยเฉพาะกับคนที่เป็นคอหนังของอินเดียวด้วยแล้ว เรื่องแรกคือหนังเรื่องนี้มีเซอร์ไพรส์ที่น่าตื่นตะลึง บางคนอาจรู้แล้ว แต่เชื่อว่าอีกหลายคนยังไม่รู้ เป็นเซอร์ไพรส์ชนิดกระชากหัวใจ ไปกองลงกับพื้นได้เลย สำหรับคนที่ชอบหนังอินเดีย วัดจากเสียงกรี๊ดที่ดังสนั่นลั่นโรง และบทสนทนาหลังเครดิตท้ายเรื่อง มีนัยชวนให้ตีความมากกว่าที่ตัวละครสนทนากัน ใครถอดรหัสได้ว่ายังไง ก็อย่าลืมคอมเม้นท์มาบอกกันด้วย ส่วนผู้เขียนตอนนี้ขอสมัคร เป็นแฟนคลับชารุคด้วยอีกคน

และทางด้านของนักแสดงของเรา ถึงแม้ว่าก่อนที่หนังจะออกฉาย ก็มีกระแสดราม่ามาเป็นระยะ ทั้งในเรื่องของอายุและอื่นๆ แต่ก็ได้ใช้วิธีนิ่งสงบสยบทุกดราม่า และให้ผลงานและผู้ชมเป็นผู้ตัดสินด้วยตัวเอง  ปรากฎว่าหนังทำรายได้อย่างถล่มทลาย และเพลงประกอบภาพยนตร์ ก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ได้ยอดวิวมากถึง 256 ล้านครั้งในยูทูป และติดเทรนด์มิวสิกวิดีโอยอดนิยมทั่วโลกอันดับที่ 5 นับว่าเป็นกระแสฮือฮากันไปทั่วประเทศเลยก็ว่าได้ และตอนที่หนังออกฉาย ก็ได้สร้างไวรัลไปทั่วทุกโรงภาพยนตร์เช่นกัน

เพราะว่าด้วยวัฒนธรรมของอินเดีย ที่ผู้ชมหนังในโรงภาพยนตร์ จะแสดงออกจากความสนุกสนานของหนังด้วยการเต้น จนเกิดกระแสไวรัลเมื่อแฟนคลับพากันลุกขึ้นมาเต้น ระหว่างรับชมภาพยนตร์เรื่องนี้ในโรงหนังจนโรงหนังทั่วอินเดีย กลายเป็นเหมือนคอนเสิร์ตย่อมๆ ในรอบฉายจนกลายเป็นที่สนใจอย่างมากในสื่อต่างๆ ซึ่งมีการวิเคราะห์ว่าส่วนหนึ่ง มาจากการที่แฟนๆ คิดถึงชารุคด้วย เพราะเขาหายหน้าหายตาไปตั้งแต่ปี 2018 และเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่เขาแสดงนำ นับตั้งแต่ช่วงโควิด ทำให้เกิดปรากฏการณ์คลั่งรักชาห์รุค กลับคืนมาอีกครั้ง xn--72czbs0gd7b9c.com/