มิตรภาพเพื่อนสี่ขา รีวิวหนังแรงบันดาลใจจากเรื่องจริง ในเรื่อง เพื่อนกันพันธุ์ห้าว

Posted 2023/05/30 92 0

มิตรภาพเพื่อนสี่ขา รีวิวหนังแนวโร้ดทริป ในการเดินทางของหนึ่งอดีตทหารกล้า กับหนี่งหมาห้าว

มิตรภาพเพื่อนสี่ขา สำหรับคนที่ชอบหนังแนวเพื่อนรักสัตว์เลี้ยง หรือหนังเกี่ยวกับความรักต่างสายพันธ์ โดยเฉพาะเป็นคนที่รู้สึกอิน กับหนังเกี่ยวกับน้องหมาเป็นพิเศษ และก็มักเสียน้ำตาให้กับหนังแนวนี้อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นความสุข ความทุกข์ หรือความสงสาร และบางคนก็พยายามหลีกเลี่ยง หนังที่ส่งผลต่อความรู้สึกโดยตรงแบบนี้ แต่สุดท้ายด้วยความเป็นทาสหมา เลยอดไม่ได้ที่จะดู โดยเฉพาะเรื่องนี้ “เพื่อนกันพันธุ์ห้าว” ที่ถือว่าน่าสนใจเลยทีเดียว แม้อาจจะเป็นหนังที่ไม่ได้อยู่ในกระแส แต่น่าดูมากๆ เลย

มิตรภาพเพื่อนสี่ขา

โดยหนังเรื่องนี้ ก็จะเป็นหนังแนวโร้ดทริป การเดินทางของคู่หูต่างสายพันธ์ ที่มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน และยังเป็นผลงานการกำกับครั้งแรก และเป็นเรื่องราวส่วนหนึ่งจากชีวิตจริงของ แชนนิ่ง เททั่ม ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเหตุการณ์ของสุนัขคู่ใจของตนเอง ในปี 2018 เมื่อ ลูลู่ สุนัขสุดรักของแชนนิ่ง ถูกวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย เขาจึงพาลูลู่ออกเดินทางไกล ไปตามชายฝั่งแปซิฟิก เพื่อที่พวกเขาทั้งสองจะได้สร้างความทรงจำดีๆ ครั้งสุดท้ายร่วมกัน

และด้วยความที่แชนนิ่งรักเพื่อสี่ขาตัวนี้มาก ประกอบกับการเป็นนักแสดงที่มีผลงานออกมามากมาย และก็เคยผ่านงานเบื้องหลัง ของการทำหนังมาบ้าง หลังจากที่แชนนิ่งกลับมาจากทริปนั้น ทำให้เขาอยากสร้างและำกับดูแลหนังแนวโร้ดมูฟวี่ เพื่อต้องการเล่าเรื่องของชายคนหนึ่ง กับสุนัขตัวหนึ่ง ที่เผชิญจุดจบของบทสำคัญ ในชีวิตของพวกเขา และต่างฝ่ายต่างช่วยเหลือกัน เพื่อนเริ่มต้นบทใหม่ของชีวิต และนั่นจึงเป็นที่มาของชื่อสุนัขลูลู่ ในภาพยนตร์เรื่องเพื่อนกันพันธุ์ห้าวนี้

ด้วยความตั้งใจที่แน่วแน่ และแรงบันดาลจากความรัก ที่มีให้น้องหมาตัวโปรด การสร้างหนังเรื่องนี้ก็เลยเป็นผลงานการกำกับแบบเต็มรูปแบบ ครั้งแรงของเขา ซึ่งก็มีผู้กำกับร่วมฝีมือดี ที่ได้ร่วมจารึกเรื่องราวคือ รีด แคโรลิน ซึ่งเป็นหนังที่เกี่ยวกับ ตัวละครพระเอกของแชนนิ่ง ที่ชื่อแจ็กสัน บริกก์ส ต้องจับคู่กับทหารหมาเพศเมีย พันธุ์เบลเยี่ยมมาลินอยส์หน่วย K9 ที่ชื่อลูลู่ เพื่อพามันเดินทางไปร่วมงานศพ ของทหารคู่หูที่เสียชีวิต เกิดเป็นเรื่องราวมิตรภาพ ความรัก และความผูกพันของทั้งคู่

ถ้าหากใครยังไม่ได้ดู เชื่อว่าต้องคิดเหมือนกันว่าหนังแนวนี้ มีความดราม่าเกินครึ่งแน่นอน แต่ถ้าหากใครได้รับชมแล้ว บอกเลยว่าหนังก็ไม่ได้ดราม่าจ๋า ซะจนต้องเสียทิชชู่เป็นห่อ เพราะเต็มไปด้วยฉากตลกเบาๆ และความน่ารัก ของความไม่ไว้วางใจซึ่งกันและกัน เป็นหนังบัดดี้คอเมดี้ ซึ่งทั้งสอง (หนึ่งคนกับหนึ่งตัว) เป็นคู่กัดและไม่ค่อยจะลงรอยกันเท่าไหร่ แต่กลับต้องออกเดินทางข้ามอเมริกาไปด้วยกัน และภายใต้เรื่องราวนั้น มันพูดถึงความเปราะบาง และการเรียนรู้ที่จะก้าวต่อไป หลังจากเผชิญกับความสูญเสีย

อย่างที่บอกไปว่าหนังเรื่องนี้เป็นแนวโร้ดทริป ก็ย่อมต้องมีเรื่องราวต่างๆ ไม่ว่าดีหรือร้าย ในระหว่างการเดินทางของทั้งสอง

จากความสูญเสียของทั้งสอง นั่นก็คืออดีตทหารกล้า ได้สูญเสียเพื่อนอันเป็นที่รัก และเจ้าหมาที่ต้องสูญเสียเจ้านาย ที่ตัวหนังต้องการมันคือการสำรวจ ความแข็งแกร่งของมนุษย์ เมื่อต้องเผชิญกับความโศกเศร้าครั้งใหญ่ ซึ่งเรามักจะเข้มแข็งขึ้น เมื่อเรากล้าที่จะเปิดใจอย่างแท้จริง คือหนังที่พาเราไปสำรวจธีมที่ว่าด้วยการยอมจำนน ซึ่งเป็นสิ่งเดียวที่ยากกว่าการต่อสู้ และสิ่งเดียวที่ควรค่าแก่การยอมจำนน นั่นก็คือ ความรัก xn--72czbs0gd7b9c.com/

ถ้าถามว่า มันเหมือนหนังเพื่อนรักต่างสายพันธุ์ทั่วๆ ไปหรือไม่ ก็คงตอบได้ว่า มีทั้งต่างและไม่ต่าง เพราะว่าในหนังเรื่องนี้ ดำเนินไปตามสูตรสำเร็จ ที่ขีดเส้นนำทางเอาไว้แล้วแทบจะทั้งสิ้น กลายเป็นหนังโร้ดทริปธรรมดาๆ ระหว่างคนกับสุนัข ที่น่าจะคาดเดาได้อยู่แล้ว แต่ด้วยรายละเอียดต่างๆ ที่ได้โปรยเอาไว้ตามทาง โดยเฉพาะปมประเด็นของตัวละคร ทั้งคนและสัตว์ ที่เป็นแรงขับเคลื่อน ให้จดจ่อและรู้สึกอินไปกับหนังได้เป็นอย่างดี

มิตรภาพเพื่อนสี่ขา

และถ้าหากผู้ชมหรือคอหนังแนวสัตว์เลี้ยง จะต้องเสียน้ำตา ก็คงจะเป็นมิตรภาพดีๆ มากกว่าฉากการจากลา หรือเรียกง่ายๆ รู้สึกอิ่มใจมากกว่าดราม่า จะไม่ใช่อะไรหนักๆ หน่วงๆ เน้นไปที่การเดินทางสไตล์หนังโร้ดมูฟวี่ กับการทำความรู้จักระหว่างคู่หู่ และการเรียนรู้เกี่ยวกับการปล่อยวาง การยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น และนับว่าเรื่องนี้เป็นหนังรักเรื่องนึง แต่เป็นหนังรักประเภทมิตรภาพ ที่ไม่ว่าโสด มีคู่ หรือเคยเลี้ยงหมา หรือมีสัตว์เลี้ยงหรือไม่ ก็สามารถอินไปกับเรื่องราวนี้ได้

ในส่วนของการแสดง ซึ่งก็คงไม่มีอะไรต้องพูดถึง เพราะไม่ใช่นักแสดงหน้าใหม่ อาจจะเป็นบทบาทใหม่ในหนัง แต่ไม่ใช่ในชีวิตจริง แชนนิ่งก็ยังคงทำได้ตามความเป็นมืออาชีพของเขา เขาแบกรับหนังเอาไว้ได้สบายๆ และบทบาทที่เขาได้รับ ก็ถือว่าเข้ากับคาแรกเตอร์ตัวของเขาเองด้วย แม้ว่านี่จะบทบาทซ้ำๆ ที่เขาเคยมีโอกาสได้รับมาบ้างแล้ว กับบทบาททหารผ่านศึก ที่มีบาดแผลอยู่ในใจ แต่การแสดงของเขาก็ลื่นไหล และที่ไม่พูดถึงไม่ได้ ก็คือเจ้าลูลู่ นักแสดงสุนัขที่เล่นได้สมบทบาท ในทุกซีน ทุกฉาก

ทั้งคู่ถ่ายทอดออกมาได้ดี เล่นจริง เจ็บจริง ดราม่าจริงๆ และทำให้ผู้ชมเคลิ้มหลงใหลได้ไม่ยากเลย โดยตัวของแชนนิ่ง ที่รับบทบาทเป็นทั้งผู้กำกับและนักแสดง โดยเจ้าตัวเป็นคนที่รักหมามากๆ ที่เรียกได้ว่า ทั้งหล่อทั้งจิตใจดี รักสัตว์ ซึ่งเขาก็เขาเคยได้รับงาน โปรดิวซ์สารคดีที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับสุนัขคู่หู ในสนามรบมาแล้ว และที่สำคัญหนังเรื่องนี้ เป็นเหมือนจดหมายรัก ถึงหมาคู่ใจของเขาที่เพิ่งจากไป แชนนิ่งเลยเป็นคนนึง ที่จะอินกับเรื่องนี้ที่สุด และถ่ายทอดความอินนั้น ผ่านการแสดง และการบอกเล่าด้วยภาษาหนัง

เรียกได้ว่าเรื่องราวในหนัง ก็จะเป็นการเยียวยาแผลใจ ซึ่งกันและกัน แม้ว่าจะเป็นการกำกับร่วม อาจจะมีบางองค์ประกอบ ที่ยังต้องไปปรับแก้อยู่บ้าง แต่เป็นการออกสตาร์ท ที่ค่อนข้างน่าพอใจ พอจะเห็นเส้นทางในอีกบทบาทหนึ่งของเขา ในวงการฮอลลิวูดนี้แล้ว แม้ว่าตัวหนังจะเบาๆ ไม่มีพิษภัยใดๆ แต่หนังก็ฝากเอาไว้ด้วยแง่คิดดีๆ แบบไม่รู้ตัว โดยรวมแล้วก็ถือว่าเป็นหนังที่เด็กดูได้ ผู้ใหญ่ดูดี แต่เชื่ออย่างหนึ่งว่า แชนนิ่งถ่ายทอดความรู้สึก และทุ่มเทกับหนังเรื่องนี้มาก เพราะมันเป็นแรงบันดาลใจจากหมาของเขาเอง เนื้อเรื่องภาพรวมฟีลกู้ดจับใจกำลังใช้ได้ สร้างความประทับใจ และกระตุ้นน้ำตาคนดูได้ในท้ายที่สุด