จีนแบนหนังฟอร์มยักษ์ หนังซูเปอร์ฮีโร่ดัง 2 เรื่องในปีนี้ ไม่ได้เข้าฉายในจีน

Posted 2022/11/29 100 0

จีนแบนหนังฟอร์มยักษ์ หนังจากสองค่ายยักษ์ใหญ่ แบล็คแพนเธอร์ และแบล็ก อดัม ถูกห้ามฉายในประเทศจีน เหตุผลเพราะอะไรไปดูกัน

จีนแบนหนังฟอร์มยักษ์ ในช่วงครึ่งปีหลังที่ผ่านมา สองค่ายภาพยนตร์แนวซูเปอร์ฮีโร่ ที่เรียกได้ว่าเป็นสองค่ายใหญ่ที่สุดในโลก นั่นก็คือค่ายดีซี และมาร์เวล ได้ปล่อยหนังฟอร์มยักษ์ออกมาค่ายละหนึ่งเรื่อง ที่สุดยิ่งใหญ่ช่วงปลายปีนี้ทั้ง “แบล็ก อดัม” ของฝั่งดีซี และ “แบล็คแพนเธอร์: วาคานด้าจงเจริญ” ภาพยนตร์ภาคต่อและปิดเฟสสี่ ของค่ายมาร์เวล กำลังโกยรายได้ทั่วโลกให้กับสตูดิโอ แต่ดูเหมือนว่า รายได้ของภาพยนตร์ทั้งสองเรื่อง อาจจะไม่ถึงเป้าที่หวังไว้

จีนแบนหนังฟอร์มยักษ์

เมื่อหนังทั้งสองเรื่องนี้ไม่ได้เข้าฉายในจีน ซึ่งเรียกได้ว่า ด้วยจำนวนประชาการในประเทศจีนนั้น ทำให้เป็นตลาดภาพยนตร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ มีภาพยนตร์ฮอลลีวูดใหม่ เพียงไม่กี่เรื่องต่อปีเท่านั้น ที่ได้เข้าฉายในประเทศจีน อันเนื่องมาจากนโยบาย การเซ็นเซอร์ภาพยนตร์ที่เข้มงวด รวมถึงนโยบายโควิดเป็นศูนย์ ของทางการจีน ที่ทำให้ต้องปิดโรงภาพยนตร์เป็นระยะในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ก็เป็นอีกมาตรการสำคัญ ที่ทำให้ภาพยนตร์ฮอลลีวูด เจาะตลาดจีนได้ยากกว่าเดิม

ซึ่งโดยปกติแล้ว การกำกับดูแลการเซ็นเซอร์หนังของจีน ก็ไม่ค่อยออกประกาศเป็นทางการ หรืออธิบายถึงเหตุผลต่อสาธารณชนว่า ทำไมถึงไม่ให้ภาพยนตร์เรื่องนั้นๆ เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ ปล่อยให้สตูดิโอผู้ผลิตหนัง และผู้ชมที่รอชมต้องรออย่างมีความหวัง ซึ่งส่วนใหญ่มักจะรอเก้อ และคาดเดาเหตุผลกันไปต่างๆ นานา แต่แหล่งข่าวที่ทำงานในอุตสาหกรรมจีน ยืนยันกับนิตยสารของฮอลลีวูดว่า ภาพยนตณืทั้งสองเรื่องนี้ ไม่มีโอกาสได้เข้าฉายในจีนแล้ว

ทั้งๆ ที่เมื่อย้อนกลับไป ในปี 2018 ในภาพยนตร์แบล็คแพนเธอร์ ในภาคแรก ที่สามารถเข้าฉายในจีนได้นั้น ก็สามารถทำรายได้ไปกว่า 105 ล้านดอลลาร์ ส่วนภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ ของ “ดเวย์น จอห์นสัน” หรือที่รู้จักกันอย่างดีในชื่อ “เดอะ ร็อค” ที่เคยเข้าฉายในจีนก็ทำรายได้ดีไม่แพ้กัน เช่น ระห่ำตึกเสียดฟ้า (2018) ทำรายได้ 98 ล้านดอลลาร์ และเร็ว…แรงทะลุนรก ฮ็อบส์ & ชอว์ (2019) ก็กวาดรายได้ไป 201 ล้านดอลลาร์

เพราะอะไร…หนังของค่ายมาร์เวล จึงถูกห้ามฉายในประเทศจีน มานานกว่า 4 ปีแล้ว?

ซึ่งการถูกสั่งห้ามเข้าฉายของหนังแบล็คแพนเธอร์ ในภาคใหม่นี้ เป็นเรื่องที่ค่อนข้างน่าแปลกใจจากผู้ชมและสื่อ เพราะภาคแรกทำรายได้ไว้ดีมาก แต่หากย้อนกลับไปดูภาพยนตร์ ในจักรวาลมาร์เวลทั้งหมดแล้ว จะพบว่าภาพยนตร์ 6 เรื่องล่าสุดของมาร์เวลนั้น ไม่ได้เข้าฉายในจีนเลย โดย แบล็ค วิโดว์ (2564) เป็นภาพยนตร์มาร์เวลเรื่องสุดท้าย ที่เข้าฉายในจีน ทำให้หลายคน ที่อยู่ในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของจีนเชื่อว่า จีนได้แบนภาพยนตร์ของมาร์เวลทุกเรื่อง ต่อจากนี้ไปเรียบร้อยแล้ว

และสำหรับภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ ของทางค่ายมาร์เวล ก็มีเหตุผลในการถูกแบน ที่แตกต่างกันออกไป อย่างเช่น ชาง-ชี กับตำนานลับเท็นริงส์ และเรื่องฮีโร่พลังเทพเจ้า ไม่ได้เข้าฉายเพราะ ซือมู่ หลิว นักแสดงนำผู้รับบาทชางชี และโคลอี เจา ผู้กำกับของฮีโร่พลังเทพเจ้า เคยให้สัมภาษณ์วิจารณ์ทางการจีน ขณะที่ สไปเดอร์แมน: โน เวย์ โฮม น่าจะถูกห้ามฉายเพราะ มีฉากไฮไลต์ของเรื่อง เป็นการต่อสู้บนเทพีเสรีภาพ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็นถึง ค่านิยมทางการเมืองของอเมริกา ที่ทรงพลังมากเกินไป กว่าที่จะยอมรับได้

และอีกเหตุผลหนึ่ง ที่คาดว่าจะเป็นเหตุผลที่ดูใจแคบเกินไป กับยุคสมัยปัจจุบันนี้ ในเรื่องของการมีตัวละครที่อยู่ในกลุ่ม ความหลากหลายทางเพศ อย่างเรื่องฮีโร่พลังเทพเจ้า และจอมเวทย์มหากาฬ ในมัลติเวิร์สมหาภัย อีกทั้งเรื่อง ธอร์: ด้วยรักและอัสนี ที่มีตัวละครหญิงรักหญิง ทำให้ถูกห้ามฉายไปตามระเบียบ ดังนั้น ในเรื่องแบล็คแพนเธอร์ ในภาคใหม่ที่กำลังเข้าฉายนี้ ก็มีตัวละครในกลุ่ม ความหลากหลายทางเพศเช่นกัน จึงถูกแบนไปตามระเบียบ

ถ้าย้อนกลับไปหลายปีก่อนหน้านี้ สตูดิโอผู้สร้างจะตัดฉากที่มีความสัมพันธ์ ของตัวละครความหลากหลายทางเพศออก เพื่อให้สามารถเข้าฉายในจีน และประเทศมุสลิมได้ ก่อนที่วอลต์ดิสนีย์ จะเข้าซื้อทเวนตีท์เซนจูรีสตูดิโอส์ และมีการตัดการพูดถึงรสนิยมทางเพศของ เฟรดดี้ เมอร์คิวรี นักร้องนำวงควีน และฉากที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเฟรดดี้ติดเชื้อเอดส์ ออกจากโบฮีเมียน แรปโซดี ภาพยนตร์อัตชีวประวัติ ของนักร้องนำวงควีน และเมื่อเร็วๆ นี้ ดิสนีย์มีจุดยืนจะไม่ลบเนื้อหาเกี่ยวกับกลุ่มรักร่วมเพศ ทำให้ภาพยนตร์หลายเรื่องไม่ได้เข้าฉายในจีน และหลายประเทศในกลุ่มประเทศมุสลิม

มาถึงเหตุผลที่หนังฟอร์มยักษ์ ซูเปอร์ฮีโร่ของทางค่ายดีซี ทำไมถึงไม่ได้เข้าฉายในจีน

ก่อนอื่นก็ต้องย้อนไปตอนต้นปีนี้ ซึ่งภาพยนตร์เรื่อง เดอะแบทแมน ในเวอร์ชันล่าสุดที่นำแสดงโดยโรเบิร์ต แพตทินสัน เป็นภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่เรื่องแรกของฮอลลีวูดในรอบ 3 ปีที่ได้เข้าฉายในจีน โดยเก็บรายได้ไป 25.3 ล้านดอลลาร์ และเหตุนี้เองหลายคนจึงคาดว่า แบล็ก-อดัม ที่เป็นภาพยนตร์จากดีซีเหมือนกัน ก็น่าจะได้เข้าฉายในจีนเช่นกัน แต่ไม่ได้เป็นเช่นนั้น ผู้บริหารของโรงภาพยนตร์รายใหญ่ของจีน เปิดเผยกับ นิตยสารของฮอลลีวูดว่า ได้เลิกหวังไปแล้วว่าหนังเรื่องนี้จะได้เข้าฉายในจีน

ส่วนสาเหตุหลักที่หลายฝ่ายคิดว่า การที่ไม่ได้เข้าฉายในจีน นั่นก็เป็นเพราะ เพียร์ซ บรอสแนน ผู้รับบทด็อกเตอร์ เฟท หนึ่งในตัวละครสำคัญของเรื่อง เคยโพสต์รูปเขากับครอบครัวคู่กับทะไลลามะ ผู้นำทางจิตวิญญาณของทิเบต พร้อมอวยพรวันเกิด ในวันครบรอบวันเกิด 85 ปี เมื่อ 2 ปีก่อน ทางการจีนมองว่า ทะไลลามะเป็นบุคคลอันตราย ที่หวังจะแบ่งแยกดินแดนทิเบตออกจากจีน ทำให้บุคคลในวงการบันเทิงฮอลลีวูด ที่มีท่าทีสนับสนุนทะไลลามะจึงถูกแบนในจีน

หากจะว่ากันตามจริงแล้ว ผู้ที่รับผลกระทบจากการไม่ได้เข้าฉาย ของภาพยนตร์ฮอลลีวูดมากที่สุด อาจจะไม่ใช่สตูดิโอผู้สร้าง เพราะยังมีรายได้จากการเข้าฉายที่อื่นอยู่ แต่อาจเป็นเจ้าของโรงภาพยนตร์ในจีน ตามข้อมูลจากบริษัทที่ปรึกษา อุตสาหกรรมภาพยนตร์และโรงภาพยนตร์ภาพยนตร์ แสดงให้เห็นว่า ยอดขายตั๋วทั้งหมดในประเทศจีนสำหรับปี 2565 ลดลง 35% เมื่อเทียบกับปีก่อน xn--72czbs0gd7b9c.com/