ความเห็นของแอมเบอร์ เกี่ยวกับภาคต่อไปของแฟรนไชส์ หนังเพรดเดเทอร์

Posted 2022/09/04 94 0

ความเห็นของแอมเบอร์ กับกระแสความนิยมอย่างมาก และคำถามของแฟนหนังส่วนใหญ่ว่า นารุจะกลับมาในหนังเพรดเดเทอร์ในภาคอื่นอีกไหม?

ความเห็นของแอมเบอร์ บางทีเราอาจจะไม่เห็นบทบาทของนารุ ในภาคของเพรย์อย่างเดียว ซึ่งเป็นภาคที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก จากการเปิดตัวเมื่อไม่นานมานี้ ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังถูกยกให้เป็นหนึ่งในภาคที่ดีที่สุด ของแฟรนไชส์เพรดเดเทอร์ ปัจจุบันเป็นภาพยนตร์ที่ได้รับเรทติ้งสูงสุด ในซีรีส์ เพรดเดเทอร์ ของรอตเทนโทเมโทส์ โดยมีแฟนคลับรุ่นเก๋าหลายคนมองว่า เพรย์ ได้รับความนิยมสูงพอๆ กับต้นฉบับในภาคแรกเลยทีเดียว

ด้วยความสำเร็จของภาคนี้ ซึ่งไม่ได้อยู่ในเรื่องราวต่อจากภาคก่อนๆ ที่เคยมีมา แต่ไม่ได้อยู่นอกขอบเขตของความเป็นไปได้ ที่จะนำตัวละครนารุกลับมาเล่น หรืออาจจะสร้างภาคต่อของเพรย์ขึ้นมาเลยก็ได้ แต่ขณะนี้ยังไม่มีแผนสำหรับภาพยนตร์เพรดเดเทอร์เรื่องอื่น แต่ถ้าเรื่องเพรย์ได้เข้าสู่ขั้นตอนการวางแผนในภาคที่ 2 เราก็น่าจะได้เห็นแอมเบอร์ กลับมารับบทบาทของนารุ

ซึ่งในการสัมภาษณ์ครั้งใหม แอมเบอร์ก็ให้ความเห็นเกี่ยวกับความเป็นไปได้ ของตัวละครนารุ ว่าจะมีภาคต่อเอง หรือจะปรากฎตัวในภาคอื่นๆ ในตอนแรกเธอพูดถึงจำนวนแฟนๆ ที่เข้ามาถามเธอเกี่ยวกับภาคต่อ และยอมรับว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีและน่าตื่นเต้นมาก ที่เธอได้รับคำเรียกร้องเหล่านี้ “ที่ฉันคิดเกี่ยวกับตัวฉัน แบบว่านั่นคือ เส้นชัยฉันไม่ได้คาดหวังอะไรมาก ดังนั้นสำหรับคนที่ตอบรับฉันในเชิงบวกในระดับนั้น ฉันรู้สึกดีใจจริงๆ และฉันรู้สึกตื่นเต้นกับมันจริงๆ”

แอมเบอร์กล่าวต่อไปว่า เธอเปิดรับแนวคิดเรื่องภาคต่อ แต่ตั้งข้อสังเกตว่าผู้กำกับ แดน แทคเทินเบิร์ก ก็ใช้เวลานานเพอสมควร ในการนำเรื่องเพรย์ออกออกสู่สายตาผู้ชม โดยเธออาจพูดเป็นนัยว่า อาจต้องใช้เวลาสักระยะ กว่าที่ภาคต่อจะเกิดขึ้น เธอยังกล่าวอีกว่าภาคสองอาจจะจะขึ้น ก็อยู่กับกระแสตอบรับ และการเรียกร้องที่ต่อเนื่อง และความเป็นไปได้ที่จะได้รับแนวคิด ที่เพียงพอสำหรับพล็อตเรื่อง ที่จะทำให้ภาพยนตร์มีจุดยืนด้วยตัวเอง

“ฉันไม่รู้ว่าแผนการในอนาคตจะเป็นอย่างไร แต่ฉันเชื่อในการตัดสินใจทุกอย่างของแดน (ทราชเทนเบิร์ก ผู้กำกับเพรย์ ) ซึ่งเขาใช้เวลาพัฒนาสิ่งนี้มานานกับศตวรรษที่ 20 แน่นอนว่าเวลาทั้งหมดถูกใช้เพื่อสร้าง ซึ่งมันดีมาก ฉันแน่ใจว่าไม่มีใครจะทำอะไรได้อีก ถ้ามันไม่ใช่เรื่องมหัศจรรย์ ดังนั้น ฉันคิดว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ฉันคิดว่า มันจะเป็นตัวเลือกที่ดีมากๆ สำหรับฉันและแฟนภาพยนตร์”

ไม่แปลกใจเลยที่แฟนๆ จำนวนมากเรียกร้องให้มีภาคต่อ เนื่องจากภาคนี้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และคำพูดของแอมเบอร์ ก็เป็นบทสนทนาที่นำไปสู่ผู้กำกับทราชเทนเบิร์ก ในการสัมภาษณ์จากอีกสถานที่หนึ่ง เขาอธิบายว่าเขายังคงจดจ่ออยู่กับเรื่องราวที่อยู่ในมือ ในขณะที่ทำหนังเรื่องเพรย์ แต่เขาก็ยังต้องการที่จะทำภาคต่อ แต่ก็ต้องหาเรายละเอียดและข้อมูลอีกมาก รวมทั้งหาพล็อตเรื่องที่เหมาะสม เพื่อเปิดประตูเรื่องราวของตัวละครนารุเพิ่มเติม

ผู้กำกับแดนได้กล่าวว่า “เราไม่ได้มองไปไกลถึงขนาดนั้น เรามองเท่าที่จะมองได้ ก่อนที่เราจะเริ่มเขียนหนังเรื่องนี้ สิ่งที่อยู่ในตัวฉันพูดว่า “อย่านับความล้มเหลวของคุณ และแค่ระวัง แล้วพยายามสร้างภาพยนตร์ที่ดีที่สุด เท่าที่จะเป็นไปได้ในทันที” ยังมีบางอย่างที่ทำให้รู้ชื่อใจ เมื่อได้ดูหนังที่เราสร้างมันขึ้นมา การได้เห็นการตอบรับที่ดี และการเรียกร้องให้มีภาคต่อนั้นเป็นเรื่องดี ในทางกลับกันเราก็ยังมีงานอื่นๆ ที่อยู่ในมือ

ซึ่งถ้าเราคิดย้อนไปในภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ ที่มีกระแสตอบรับที่ดีมาก และมีการเรียกร้องให้ทำภาคต่อ หรือว่าอยากเห็นตัวละครนั้นๆ ในภาคอื่นๆ ของแฟรนไชส์หนังเรื่องนั้น ก็จะมีภาคต่อหรือตัวละครนั้นออกมาสู่สายตาผู้ชม แต่ไม่ว่าเราจะได้เห็นแอมเบอร์ กลับมารับบทบาทนารุในอนาคตอีกหรือไม่ แต่เหล่าบรรดาผู้ชม และคนในวงการ ก็ได้ยกย่องให้เธอเป็นนักแสดงคุณภาพในฮอลลีวูด เพราะนอกจากหนังเรื่องเพรย์แล้ว ยังสามารถพบกับการแสดงของเธอได้ในซีรีส์อื่นๆ

และแอมเบอร์ยังได้แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับความสำเร็จของหนังเรื่องเพรย์ พร้อมกับคำขอบคุณสั้นๆ ว่า “ฉันซาบซึ้งมากๆ”

อย่างที่บอกไปว่าหนังเรื่องนี้ ได้รับความนิยมอย่างมากสำหรับทั้งแพล็ตฟอร์มสรีมมิ่ง และผู้ที่อยู่เบื้องหลังการทำงานทั้งหมดของแฟรนไชส์เพรดเดเทอร์ และตัวของแอมเบอร์เอง กล่าวว่าเธอรู้สึกเหมือนอยู่ในความฝัน ซึ่งทุกฝ่ายก็ไม่คาดหวังว่า หนังจะประสบความสำเร็จเช่นนี้ อย่างไรก็ตาม การเปิดตัวบนแพล็ตฟอร์มฮูลู ก็ประสบความสำเร็จอย่างมากเช่นกัน และทำลายสถิติใหม่บนแพลตฟอร์มการสตรีม

แต่ก็ยังมีหลายคนสงสัยว่า เหตุใดหนังจึงไม่สามารถฉายในโรงภาพยนตร์ได้ เพราะนอกจากจะมีผู้ที่อยากชมหนังเรื่องนี้สูงแล้ว ยังได้รับคำชมและวิพากษ์วิจารณ์ในแง่บอกอย่างมากเช่นกัน และปัจจุบันได้รับการจัดอันดับให้เป็นภาพยนตร์ ที่ได้รับคะแนนสูงสุดจากแฟรนไชส์เรื่องนี้ และก็คงต้องยกเครดิตให้กับตัวของแอมเบร์ ที่แสดงได้ดีสำหรับบทบาทตัวละครนำ ซึ่งในการสัมภาษณ์ครั้งใหม่ เธอกล่าวถึงความสำเร็จที่สามารถทำได้ เธออธิบายว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเธอ คือการเข้าถึงชีวิตของชนเผ่าพื้นเมืองในเรื่อง

ซึ่งเธอก็ได้กล่าว เกี่ยวกับความสำเร็จของหนังเรื่องนี้ว่า “ไม่มีคำพูดว่ารู้สึกอย่างไร จริงๆ แล้ว สิ่งที่ฉันคิดมากที่สุดคือ ในการทำหนัง แล้วปล่อยหนัง คือสิ่งที่คนพื้นเมืองจะรู้สึกเกี่ยวกับเรื่องนี้ การตอบสนองของคนอินเดียต่อหนังเรื่องนี้ คือสิ่งที่ฉันรู้สึกกังวลมากที่สุดจริงๆ การตอบรับสำหรับสิ่งนั้นจะเป็นอย่างไร ฉันรู้สึกเหมือนว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้มีไว้เพื่อใคร? และนั่นคือสิ่งที่หนังจะให้คำตอบกับเรา”

“และชาวโคมานเช่ ก็ตอบรับเราได้ดี และโดยทั่วไปแล้ว การที่คนพื้นเมืองตอบสนองได้ดี ก็เป็นการถอนหายใจเฮือกใหญ่ และจากนั้น การได้มีปฏิสัมพันธ์บางอย่างกับผู้คน ซึ่งมีมีความหมายทางวิถีชีวิต และดูสวยงามจริงๆ และน่าประทับใจจริงๆ ไม่มีอะไรจะเหนือไปกว่านั้นได้ ไม่มีการทำลายสถิติหรืออะไรก็ตาม ที่สามารถเอาชนะ สิ่งที่มีความหมายกับฉันต่อพวกเขาได้” จากที่กล่าวมา เป็นเรื่องที่น่ายินดี ที่ได้เห็นการทำงานได้ดีของทุกคน และเธอทำให้เห็นชัดเจนว่า เธอรู้สึกขอบคุณมากสำหรับสิ่งต่างๆ ที่ได้ทำงานออกมาในลักษณะนี้

สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยดูหนังเรื่องนี้ อาจจะคิดว่าต้องย้อนกลับไปดูภาคก่อนๆ ถึงจะรู้เรื่อง แต่มันไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย เพราะว่าในเรื่องราวของเพรย์ เป็นเนื้อเรื่องที่สร้างขึ้นใหม่ทั้งหมดในแฟรนไชส์เพรดเดเทอร์ ซึ่งในเรื่องจะย้อนไปเมื่อ 300 ปีที่แล้ว ที่บอกเล่าเรื่องราวของหญิงสาวชาวเผ่าโคมานเช่ ซึ่งเป็นเผ่านักรบที่ดุร้ายและมีทักษะสูง ผู้ซึ่งจะต้องเผชิญหน้ากับนักล่าที่เป็นเอเลี่ยน ที่มีวิวัฒนาการสูง พร้อมด้วยเทคนิคการล่าขั้นสูง ที่ไล่ล่าเธอและคนในเผ่า ทำให้ตัวเธอต้องลูกขึ้นสู้ และหาวิธีโต้กลับพวกเอเลี่ยนด้วยความสามารถที่เธอมี xn--72czbs0gd7b9c.com/